Tuesday, 20 August 2013

เวทมนต์แห่งการโฆษณา

วันนี้ได้นอนดูซีรีย์ที่มีกระแสแรงแห่งยุควัยทีน "Hormones วัยว้าวุ่น" ทำให้นึกอยากเขียนข้อคิดอะไรบ้างอย่างที่ได้จากการดูคลิปวิดีโอนี้ (ติดตามชมผ่านทางยูทูป) ที่เรียกว่าคลิปวีดีโอเพราะว่าสิ่งที่กำลังจะพูดถึงในที่นี้ไม่ได้กำลังจะพูดถึงเนื้อหาในหนัง ซึ่งหลายๆคนก็ออกมาพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า "ถึงเวลาแล้วที่สังคมไทยจะต้องยอมรับว่ามีเหตุการณ์เหล่านี้" แต่ทุกครั้งที่ดู ก็อดคิดไม่ได้ว่า จริงเหรอ? คนไทยเราควรจะยอมรับให้เรื่องเหล่านี้กลายเป็นเรื่องสาธารณะสำหรับเด็กวัยรุ่นได้จริงๆเหรอ? แต่ประเด็นนี้ขอพักไว้ก่อน

ประเด็นที่จะเขียนถึงวันนี้ น่าจะเป็นประเด็นที่แตกต่างจากที่คนทั่วไปกำลังวิพากษ์วิจารณ์ นั่นคือเรื่องของ "sponsor" หรือ "ผู้สนับสนุนรายการ" นั่นเอง

แน่นอนว่าไม่ว่าจะเป็น หนัง/ละคร/ภาพยนต์/รายการทีวีต่างๆ ย่อมต้องการงบประมาณในการสนันสนุนเพื่อให้สิ่งที่ตัวเองสร้างขึ้นยังคงอยู่และทำกำไรให้แก่ตน

จากการติดตามซีรีย์ Hormones อย่างใกล้ชิด สิ่งที่รู้สึกมาโดยตลอด นั่นคือ ยิ่งกระแสตอบรับมากเท่าไหร่ โฆษณาก็เพิ่มขึ้นเป็นเงาตามตัว (ซึ่งมันก็ไม่เห็นจะแปลก..) จากที่แรกเริ่มมีผู้ผลิตที่กล้าหาญร่วมชะตากรรมเพียงไม่กี่ราย แต่ตอนนี้ช่วงเวลาระหว่างตอนกลับกลายเป็นช่วงเวลา generate income ให้กับผู้สร้างได้อย่างมหาศาล

เพราะฉะนั้น มันคงไม่น่าแปลกใจที่เราจะเห็นโฆษณาขายถุงยางอนามัยยี่ห้อดัง ปรากฎอยู่ในช่วงเวลาทองดังกล่าว ใช่เลย!! โฆษณาถุงยางที่บอกชัดเจนว่ามีหลายแบบหลากกลิ่นให้เลือก รวมทั้งโฆษณาเหล่าสินค้าครีมผิวขาว ครีมหน้าใส หรือแม้แต่อาหารเสริมบำรุงความงาม ที่เราก็มิอาจรู้ได้ว่าสารสกัดเหล่านั้นมันส่งผลต่อร่างกายเรา หรือเกิดจากจิตวิทยาของเหล่านักการตลาดมือฉมัง ก็ทะยอยตบเท้าเข้ามาเคาะประตูบ้านเรียกลูกค้าเฉพาะกลุ่มแบบถึงเนื้อถึงตัว

ซึ่งแน่นอนว่า โฆษณาเหล่านี้ เราคงไม่มีโอกาสได้เห็นง่ายๆผ่านทาง "ฟรีทีวี"

ทำไมเหรอ? ก็เพราะเหตุผลง่ายๆ 2ข้อ
1) "แพง" ก็เป็นไปตามกฎของอุปสงค์-อุปทาน  สินค้าที่มีิอยู่จำกัด (เวลา) และมีคนต้องการมาก (ผู้ผลิตสินค้าที่ต้องการให้โลกรู้ว่าสินค้าชั้นมีอยู่บนโลกนี้) ราคาสินค้านั้นย่อมแพงเป็นธรรมดา เพราะฉะนั้นก็จะมีแค่เจ้าใหญ่และขาประจำที่เป็นผู้ผูกขาดไป
2) "กรรมการร่วมระหว่างสถานีกับสมาคมโฆษณาฯ" เป็นคณะกรรมการรวมของแต่ละช่องสถานีและสมาคมโฆษณา ที่ทำหน้าที่หลักในการตรวจสอบโฆษณาต่างๆ ที่มีการสกรีนโฆษณาให้เหมาะสมกับผู้บริโภค

แต่หลายคนยังคงเข้าใจว่า อ้าว!! ไม่ใข่หน้าที่ของ “กบว.” (อ่านว่า กอ-บอ-วอ) หรือชื่ิอเต็มว่า “คณะกรรมการบริหารวิทยุกระจายเสียงและวิทยุโทรทัศน์” รือ?
คำตอบง่ายๆคือ กบว.เค้าถูกยกเลิกไปตั้งกะปีมะโว้แล้วววว (ปี2535)
ดังนั้น เลิกให้เค้าเป็นแพะซะทีเหอะ!!

(กลับมาเข้าเรื่อง) ไม่ว่าใครจะเป็นผู้กำหนดกฎระเบียบมาตรการใดๆ ทุกคนคงคิดไม่ต่างกันว่า มันจะอะไรนักหนา??? เมื่อมีการแบนหรือเซนเซอร์โฆษณา/ละคร -- ใครเค้าอยากโฆษณาอยากพูดอะไรก็ให้ทำๆไปเหอะ -- ขนาดนมชิซูกะยังดูไม่ได้เลย -_-"

แต่วันนี้หลังจากที่ดู Hormones จบ.. ก็ทำให้เกิดความคิดขึ้นว่า
- มันจะดีเหรอที่ปล่อยให้สื่อประกาศขายสินค้าได้ทุกประเภทตั้งแต่สากกะเบือยันเรือรบแบบนี้?
- มันจะดีเหรอที่ของทุกอย่างที่เด็กวัยรุ่นยังไม่ควรจะได้ใช้ กลับถูกนำเสนอขายต่อหน้าต่อตา?
- มันจะดีเหรอที่ของในละครที่ทุกคนบอกว่า ผู้ใหญ่ควรสอนเด็กไปด้วยว่ามันเป็นสิ่งไม่ดี แต่พวกเค้ากลับถูกดึงดูดใจด้วยโฆษณาชวนเชื่อ?

ถึงแม้ว่า episode12 ที่เพิ่งดูจบไปจะยังขาด น้ำเมา บุหรี่ สถานที่เที่ยวกลางคืน อบายมุขอื่นๆ แต่ก็ไม่แน่ว่ามันอาจจะตามมาในเร็วๆนี้.. แล้วเราควรจะทำไงกับสื่อที่เข้าถึงง่ายมากๆๆๆในปัจจุบัน หรือเราทำได้แค่คิดว่า เด็กสมัยนี้โตเร็ว เลยต้องทำใจยอมรับมัน...

และมันจะไม่ใช่คำถามสุดท้าย
... เจ้าหนูจำไม


No comments:

Post a Comment